จริงๆแล้วก็ไม่ได้เยอะเว่ออะไรขนาดนั้นก็แค่แถวยาวประมานบล๊อค สองบล๊อค
แต่แถวเคลื่อนช้าที่สุดตั้งแต่เคยไปต่อแถวมาในชีวิต
วันแรก เปิดตั้งแต่5โมงเย็นถึงสองทุ่ม ต่อแถวตั้งแต่บ่ายสี่แต่สุดท้ายอดอ่ะ ไม่ได้เข้า!!
คิดดูรอจนถึงเวลาปิดแถวก็ยังเลื่อนไปไม่ถึงไหน
เซ็ง! หลายๆคนที่มาต่อแถวตั้งแต่สว่างยันมืด ก็ต้องมึนตึ๊บกลับบ้านแบบเซ็งๆ เพราะมายืนหนาวกันหลายชั่วโมงแต่ไม่ได้เข้ากัน บางคนก็กลับดีๆ บางคนก็โวยวาย หนักสุดถึงกับด่าพนักงานเค้าก็มี นังบ้าาางู้นงี้ง้านน ฮ่าๆๆๆ น่ากลัวจิงๆไปดีกว่า
กลัวที่ไหน วันที่สองไปอีก คราวนี้ไปถึงตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า เช้านี้ฝนตกและอากาศดรอป สองชั่วโมงแรกยังโอเค
หลังจากนั้นเริ่มมีอารมณ์งอแงอยากกลับบ้านบ้าง แต่ความอยากมีมากกว่า กระเป๋าชนะความหนาว! yayy
จากแถวยาวๆก็เคลื่อนไปเรื่อยๆอย่างช้าๆ ช้ามากๆๆๆๆๆ ย้ำ ช้ามากๆ
อีกนิดเดียว ฮึ๊บ เห็นประตูข้างหน้านั่นมั๊ย!!
จนในที่สุดก็ได้เข้าข้างใน งานเซลyslอยู่ 4th floor เดินขึ้นบันไดสี่ชั้นชิลๆ (แบบแอบเหนื่อยนิดส์)
พอไปถึงนึกว่าจะได้เข้าเลย ที่ไหนได้ทุกคนต้องฝากกระเป๋าและเสื้อcoat
งานนี้ก็เลยทำไรไม่ได้อ่ะ อยากได้ของถูก น้องยอมม!
ก็ต้องต่อแถวรออีก เซ็ง!
งานนี้ต้องพูดว่าคุ้มค่าต่อแถวหนาวเหน็บปากสั่นได้เพราะของเยอะทีเดียว กระเป๋าถูกวางบนโต๊ะยาวๆ มีโต๊ะทั้งหมดสามตัวด้วยกัน แต่ของที่เล็งไว้ถูกกวาดเรียบไปหมดแล้วว ไม่มีกระเป๋าใบเล็กๆที่อยากได้เลย ทั้ง wallet, cosmetic bag หรือ easy ซักกะใบ
downtownก็เหลือแต่สีขาว มันน่ารักนะแต่มันเลอะเทอะอ่ะ เลอะแน่นอนเพราะขนาดยังไม่ได้ใช้ก็เลอะแล้วอ่ะ ทุกใบ ย้ำว่าทุกใบจะมีรอยเล็กน้อย (ก็แค่เลอะกาวนิดหน่อยเช็ดน่าจะออก) ปานกลาง ไปจนถึงเยอะจนน่าเกลียดก็มีอันนี้พูดถึงกระเป๋าสีขาวนะจ๊ะ ใบอื่นยังโอเคสวยงามน่าคบเหมือนเดิม หรือเพราะสีอื่นมันมองไม่เห็นรอยชัดเจนเราก็เลยไม่ทันสังเกต ฮ่าๆๆ
downtownก็เหลือแต่สีขาว มันน่ารักนะแต่มันเลอะเทอะอ่ะ เลอะแน่นอนเพราะขนาดยังไม่ได้ใช้ก็เลอะแล้วอ่ะ ทุกใบ ย้ำว่าทุกใบจะมีรอยเล็กน้อย (ก็แค่เลอะกาวนิดหน่อยเช็ดน่าจะออก) ปานกลาง ไปจนถึงเยอะจนน่าเกลียดก็มีอันนี้พูดถึงกระเป๋าสีขาวนะจ๊ะ ใบอื่นยังโอเคสวยงามน่าคบเหมือนเดิม หรือเพราะสีอื่นมันมองไม่เห็นรอยชัดเจนเราก็เลยไม่ทันสังเกต ฮ่าๆๆ
ไม่เคยเจองานไหนhardcoreเท่านี้มาก่อน กิมจิแย่งชิงแทบตบกัน ฮ่าๆๆๆ
อันนี้เรื่องจริง คือแบบว่าพนักงานเค้าจะคอยเอากระเป๋ามาเติมใหม่เรื่อยๆ ไม่ทราบความถี่ แต่เห็นทุกทีพวกนางก็มักได้ไป นางก็แบบว่าล้อมโต๊ะเฝ้ารอบโต๊ะเลย
Day 3
วันสุดท้ายยยย
วันสุดท้ายยยย
มาทำไมทุกวัน ไม่มีงานมีการทำรึ?
ถูก!!! ฮ่าๆๆ
ความสุขเล็กๆน้อยๆน่ะ
ไปแต่ละวันก็ได้ของกลับมาไม่เหมือนกันนะ
วันนี้อากาศหนาวสุดเห็นบอกพรุ่งนี้จะมีsnow
ตื่นตีสี่ครึ่งไปถึงหกโมงเช้า
พอไปถึงก็มีคนมาต่อแถวแล้ว แถวตอนหกโมงเช้ายาวประมาณ 30- 40คน เห็นจะได้
อากาศหนาวแต่ก็ดูจะไม่มีใครท้อ ประตูจะเปิดตอนแปดโมงเช้า อีกสองชั่วโมงเท่านั้น
...
...
สว่างแล้วววว
พอเจ็ดโมงแถวก็ยาวไปสุดถนนแล้ว
ประมาณแปดโมงนิดหน่อยประตูก็เปิด ก็ทยอยให้เข้าทีละนิดประมานครั้งละ10 - 15 คน
แล้วก็เหมือนเดิม ก่อนเข้าต้องฝากกระเป๋าและเสื้อโค้ท
Minci (ที่หันหลังอยู่) สาวจีนเพื่อนใหม่ที่เจอกันตอนต่อแถว นิสัยดีน่ารักมั๊กๆ |
ส่วนใหญ่ก็เหมือนเดิม กระเป๋ารุ่นเดิมๆที่วางไว้บนโต๊ะ
แต่พนักงานก็จะมี surprise เอากระเป๋ามาวางทีละสามสี่ใบตอนเผลอๆ
ไม่มีกระเป๋าใบที่ตั้งใจจะมาเอาซักใบ เห็นอยู่แค่สองสามใบ (ในมือคนอื่น) ฮ่าๆๆๆ
เอาน่าแค่นี้ก็สนุกละ ได้ของกลับบ้านติดไม้ติดมือกันนิดหน่อย
กลับดีกว่า
happy ending คนละถุงกับพี่สาวกลับบ้านอย่างมีความสุข |
Tax กระเป๋าถูกชาร์ตที่ 8.875% จากราคากระเป๋า
ส่วนรองเท้า เสื้อผ้า accessoryทั้งหลายก็ 4.375%
ราคาของในงานถูกลงมากแต่ก็ยังเป็นราคา luxury อยู่ดี
ถ้าใครที่ชื่นชอบคลั่งใคล้แบรนเนมเห็นทีจะต้องกรี๊ด
แต่ถ้าไม่ใช่big fan เห็นทีอาจจะไม่ชอบใจกัน
เพราะราคาของกระเป๋าแต่ละใบก็ยังหลักหมื่นอยู่ดี
ข้อเสียคือ ของมีตำหนิ บ้างก็น้อย บ้างก็มาก
ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะตอนศึกแย่งชิงในห้องนั้น, การขนส่งสินค้า, ขั้นตอนการผลิต
หรือว่า การเก็บรักษากันแน่ที่ทำให้เป็นแบบนั้น
อีกอย่างคือ อุปกรณ์ไม่ครบ ซื้อกระเป๋าสามใบจากงานนี้ ไม่ได้dust bagซักใบ
บางใบก็มีcard บางใบก็ไม่มี
8โมง - 11 โมง สามชั่วโมงไม่ขาดไม่เกิน
ในห้องนั้น เวลามันช่างเดินไปเร็วจริงๆ
ฮ่าๆๆๆ
ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการช๊อบปิ้ง! <3
No comments:
Post a Comment